5 อุปสรรคในการออมเงิน ที่ทำให้คุณไปไม่ถึงฝัน

การออมเงิน เป็นสิ่งที่เราถูกปลูกฝังให้ทำตั้งแต่ยังเด็ก แน่นอนว่าในช่วงวัยนั้นการได้นำเงินหยอดกระปุกนับว่าเป็นเรื่องที่สนุกสนาน และภาคภูมิใจ แต่เมื่อโตขึ้น การแบ่งรายได้ของตัวเองไปหยอดกระปุก กลับเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เพราะค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนที่รุมเร้าเข้ามาจนทำให้แทบจะไม่สามารถเจียดเงินไปออมได้เลย แต่นอกจากปัจจัยเรื่องค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน จะเป็นอุปสรรคในการออมเงินของคนส่วนใหญ่แล้ว ยังมีปัจจัยที่เป็นปัญหาการออมเงินอีกมากมาย ดังนั้นเราไปดูกันดีกว่าว่า อุปสรรคในการออมเงินที่ทำให้เราไม่มีเงินเก็บออม มีอะไรบ้าง

อุปสรรคในการออมเงินของใครหลาย ๆ คน

แม้ว่าการออมเงินจะดูเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ง่าย แต่รู้หรือไม่ว่า คนส่วนใหญ่กลับไม่สามารถบรรลุเป้าหมายในการออมเงินได้ ดังนั้นเราไปดูกันดีกว่าว่า อุปสรรคในการออมเงินที่ทำให้เราไปไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้มีอะไรบ้าง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถสังเกตตัวเองและปรับวินัยในการออมเงินให้ดีขึ้นได้

1.ไม่มีวินัยมากพอ

วินัยทางการออมเงิน เป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นจากตัวของคุณเอง ดังนั้น หากคุณอยากออมเงินให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้ จะต้องเริ่มจากการปรับที่พฤติกรรมการออมเงินของตัวเองก่อน โดยอาจจะเปลี่ยนวิธีในการออมใหม่ เช่น จากที่เคยมีนิสัย ใช้ก่อนออมทีหลัง ก็เปลี่ยนเป็นการกำหนดสัดส่วนเงินออมให้ชัดเจน และออมก่อนใช้เงิน หรือตั้งเป้าหมายในการออมเงินเพื่อเป็นแรงผลักดันให้ไปถึงเป้าหมาย เป็นต้น 

2.ความโลภในการลงทุน

ในปัจจุบันนี้เราสามารถเห็นกูรูด้านการเงินหลาย ๆ คนออกมาให้คำแนะนำว่า ต้องลงทุนในสินทรัพย์นั้น ต้องลงทุนเป็นจำนวนเงินเท่านี้ ถ้าไม่ลงทุนตอนนี้จะพลาดโอกาส ซึ่งข้อความเหล่านี้นี่เองที่เป็นตัวกระตุ้นให้เราเกิดความโลภ และตัดสินใจลงทุนไปโดยไม่ได้ศึกษา แน่นอนว่าถ้าโชคดีก็จะได้กำไรกลับมามากมาย แต่หากโชคร้าย ก็อาจจะต้องสูญเสียเงินต้นที่ลงทุนไปทั้งหมดได้ ดังนั้น ก่อนลงทุนทุกครั้งจึงควรศึกษาข้อมูลและความเสี่ยงก่อนเสมอ รวมถึงลงทุนด้วยความไม่ประมาท

3.รสนิยมสูงสวนทางกับรายได้

ปฏิเสธไม่ได้ว่า โซเชียลมีเดียเข้ามามีอิทธิพลกับชีวิตของเราเป็นอย่างมาก ทำให้หลาย ๆ คนหลงระเริงไปกับการใช้เงินเพื่อสร้างไลฟ์สไตล์ให้ดูหรูหราและน่าสนใจ ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องผิดหากคุณมีเงินมากพอและไม่ได้กระทบกับสภาพคล่องทางการเงินของคุณ แต่หากคุณมีไลฟ์สไตล์ที่หรูหราสวนทางกับรายได้ สิ่งนี้แหละที่น่ากังวล เพราะนอกจากจะทำให้คุณไม่มีเงินเก็บในอนาคตแล้ว ยังอาจทำให้เกิดหนี้และปัญหาสภาพคล่องทางการเงินในอนาคตได้อีกด้วย 

4.เจอเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

การต้องเผชิญกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ไม่ว่าจะเป็น การเจ็บป่วยที่ต้องใช้เงินก้อนโตในการรักษา ต้องนำเงินไปซ่อมแซมบ้านหรือรถยนต์ เหตุการณ์เหล่านี้ล้วนเป็นอุปสรรคในการออมเงินที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น นอกจากการออมเงินแล้ว ยังควรจัดสรรและกระจายเงินออมออกเป็นส่วน ๆ เพื่อไม่ให้กระทบกับเงินก้อนใหญ่ของเรา

5.ตั้งเป้าหมายไม่ชัดเจน

อีกหนึ่งอุปสรรคในการออมเงินของใครหลาย ๆ คนก็คือ การไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนว่า เราออมเงินไปเพื่ออะไร ในแต่ละเดือนต้องออมเงินเท่าไหร่ หรือภายใน 1 ปีอยากให้มีเงินเก็บออมจำนวนเท่าไหร่ แน่นอนว่าเมื่อเราไม่มีเป้าหมายในการออมเงินที่ชัดเจน เมื่อได้เงินมาเราก็จะนำเงินไปใช้จ่ายในส่วนอื่นก่อน เหลือเท่าไหร่ก็ค่อยนำมาเก็บ ดังนั้น นอกจากการตั้งเป้าหมายว่าจะออมเงินแล้ว ยังควรตั้งเป้าหมายว่า เราออมเงินไปเพื่ออะไร เพื่อให้เรามีความมุ่งมั่นและมีแรงบันดาลใจในการออมเงินมากขึ้น

สรุปบทความ

อุปสรรคในการออมเงินที่เราได้กล่าวไปข้างต้น นับว่าเป็นอุปสรรคเพียงเล็กน้อยที่สามารถแก้ได้ด้วยการตั้งเป้าหมายและสร้างวินัยในการออมเงินให้ดี แน่นอนว่าถ้าคุณทำได้ คำว่าอิสรภาพทางการเงินก็จะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม อีกทั้งยังช่วยให้คุณไม่ต้องสร้างหนี้จากการขอสินเชื่ออีกด้วย ทั้งนี้ หากคุณมีเรื่องฉุกเฉินที่จำเป็นจะต้องใช้เงินก้อนโตจริง ๆ ก็อย่าลังเลหรือรู้สึกผิดที่จะขอสินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อนำเงินก้อนมาใช้จ่าย และเพิ่มสภาพคล่องให้กับตัวเอง

กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
ดอกเบี้ย 15%-25% ต่อปี
*กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนการสมัครที่ promise.co.th
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด