ภาวะเงินเฟ้อ รับมือยังไงให้มีเงินใช้ไม่รัดตัว

ภาวะเงินเฟ้อ เป็นภาวะสำคัญในระบบเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตในหลาย ๆ ด้าน ซึ่งในปัจจุบันนี้ หลาย ๆ คนอาจจะได้ยินกูรูด้านการเงินในโซเชียลมีเดีย ออกมาเตือนให้คนเริ่มประหยัดและรีบเก็บเงินเพื่อเตรียมรับมือกับภาวะเงินเฟ้อที่อาจจะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งแน่นอนว่าแม้เราจะไม่ทราบได้ว่า ภาวะเงินเฟ้อจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ แต่การทำความรู้จักและเตรียมรับมือกับภาวะเงินเฟ้อให้ดี จะช่วยให้คุณผ่านพ้นวิกฤตทางการเงินนี้ไปได้ ดังนั้นเราไปทำความรู้จักภาวะเงินเฟ้อ และวิธีรับมือไปพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า

ภาวะเงินเฟ้อคืออะไร

ภาวะเงินเฟ้อ คือ ภาวะที่ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่มูลค่าของเงินกลับลดลง ทำให้ผู้บริโภคมีอำนาจในการซื้อลดน้อยลง ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น ในปี 2565 ซื้อกาแฟแก้วละ 50 บาท แต่ในปี 2566 กลับขึ้นราคาเป็น 55 บาท นั่นหมายความว่า ในปี 2566 มีอัตราเงินเฟ้อสูงถึง 10% เป็นต้น

ปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ

สาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อจะมีอยู่ทั้งหมด 2 ประเภท ได้แก่ Cost-Push Inflation และ Demand-Pull Inflation โดยทั้ง 2 ประเภทมีความแตกต่างกันดังนี้

• Cost-Push Inflation เป็นเงินเฟ้อที่เกิดจากอุปทาน หรือต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น จนทำให้ผู้ผลิตต้องปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นตาม
• Demand-Pull Inflation เป็นเงินเฟ้อที่เกิดจากอุปสงค์ หรือความต้องการที่มีมากกว่าปริมาณสินค้าและบริการที่มีอยู่ในขณะนั้น ทำให้ราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้น

ภาวะเงินเฟ้อส่งผลกระทบต่อประชาชนยังไงบ้าง

เมื่อเกิดภาวะเงินเฟ้อ ผลกระทบที่ประชาชนทั่วไปจะได้รับเลยก็คือ รายจ่ายหรือภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทำให้มีอำนาจในการจับจ่ายซื้อสินค้าและบริการได้น้อยลง นอกจากนี้ยังอาจทำให้รายรับที่ได้มาไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตประจำวัน อีกทั้งยังทำให้อัตราดอกเบี้ยที่หักเงินเฟ้อออก หรืออัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงมีค่าลดลงไปด้วยเช่นกัน

เมื่อเกิดภาวะเงินเฟ้อเราควรรับมือเรื่องการเงินอย่างไร

เมื่อได้ทราบสาเหตุและผลกระทบของภาวะเงินเฟ้อกันไปแล้ว ต่อไปเรามาดูวิธีรับมือเมื่อเกิดภาวะเงินเฟ้อกันดีกว่า

1.การออมเงินยังเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

โดยปกติแล้ว ในช่วงที่เข้าสู่ภาวะเงินเฟ้อ การจับจ่ายใช้สอยหรือการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ จะมีความเสี่ยงมากกว่าช่วงเศรษฐกิจปกติ ดังนั้น การออมเงินจึงถือเป็นวิธีบริหารจัดการเงินในช่วงภาวะเงินเฟ้อที่มีความปลอดภัยสูง อีกทั้งการออมเงินแบบฝากประจำยังให้ดอกเบี้ยที่ค่อนข้างสูงอีกด้วย

2.ใช้จ่ายอย่างระมัดระวังและรัดกุม

อย่างที่บอกไปว่า ในช่วงภาวะเงินเฟ้อ ราคาสินค้าและบริการต่าง ๆ จะปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้น จึงควรใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง และรัดกุม เพื่อให้รายจ่ายเพียงพอกับเงินเดือนที่ได้รับ นอกจากนี้ก็อย่าลืมให้ความสำคัญกับการทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย เพื่อให้เราสามารถคำนวณเงินที่จะใช้ รวมถึงควบคุมค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปได้

3.เลี่ยงการก่อหนี้เสีย

หนี้เสีย หรือหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ เป็นสิ่งที่เราไม่ควรสร้าง หรือสร้างให้น้อยที่สุดในช่วงภาวะเงินเฟ้อ โดยควรจะหลีกเลี่ยงการซื้อของที่ไม่จำเป็น และวางแผนการใช้จ่ายให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น หากจำเป็นจะต้องสร้างหนี้จริง ๆ ควรสร้างหนี้ทีละก้อน และควรมีหนี้เพียง 30-40% ของรายได้ที่เรามี

4.หาโอกาสสร้างรายได้พิเศษ

นอกจากการบริหารจัดการเงินเดือนที่เราได้รับแล้ว การทำอาชีพเสริมเพื่อสร้างรายได้ ก็เป็นสิ่งที่จะช่วยให้คุณมีเงินใช้จ่ายมากขึ้นได้เช่นกัน

สรุปบทความ

ได้ทำความรู้จักภาวะเงินเฟ้อกันไปแล้ว ก็อย่าลืมให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการเงินให้เป็นระเบียบแบบแผน และรัดกุมมากที่สุด เพื่อให้คุณสามารถใช้ชีวิตในช่วงภาวะเงินเฟ้อได้โดยไม่ลำบาก และไม่ต้องไปสร้างหนี้จากการขอสินเชื่อเพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน แต่แน่นอนว่า หากคุณพยายามบริหารจัดการเงินอย่างเต็มที่แล้ว แต่ยังมีปัญหาสภาพคล่องอยู่ สินเชื่อส่วนบุคคลจาก PROMISE ก็พร้อมให้ความช่วยเหลือคุณในยามฉุกเฉินได้

กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
ดอกเบี้ย 15%-25% ต่อปี
*กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนการสมัครที่ promise.co.th
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด