ลงทุนกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ดียังไง?
การลงทุนกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ดียังไง ทำไมถึงต้องลงทุน? สินเชื่อพรอมิสมีคำตอบ!
จริงๆ วัตถุประสงค์หลักของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพคือการเก็บออมก่อนแล้วใช้ทีหลัง เพราะเมื่อเงินเดือนออกจะถูกหักเงินโดยอัตโนมัติเพื่อนำไปลงทุนไว้ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และจะนำเงินออมนั้นออกมาใช้ก็ตอนที่เกษียณอายุแล้ว
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพคืออะไร
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพคือกองทุนที่นายจ้างและลูกจ้างจัดตั้งขึ้น เพื่อให้ลูกจ้างมีเงินออมไว้ใช้ยามเกษียณ โดยจะมีการหักเงินของลูกจ้างส่วนหนึ่งจากเงินเดือนและเงินสมทบจากนายจ้างอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งอัตราการสมทบของนายจ้างก็จะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละบริษัท บางบริษัทอาจจะมีเพียงแค่อัตราเดียว และบางบริษัทก็อาจจะมีการสมทบเป็นขั้นบันไดตามอายุงาน ในส่วนของลูกจ้างนั้นสามารถเลือกการหักเงินจากเงินเดือนได้ขั้นต่ำ 2% หรือตามที่บริษัทกำหนด โดยปกติแล้วสามารถหักเงินได้ตั้งแต่ 2% - 15% ด้วยความสมัครใจ จากนั้นจะนำเงินก้อนที่หักจากลูกจ้างและที่ได้รับการสมทบจากนายจ้างไปลงทุนตามแผนที่ลูกจ้างเลือกจากพอร์ตที่นายจ้างกำหนดมาให้ ซึ่งแต่ละบริษัทก็จะมีแผนการลงทุนที่แตกต่างกัน เมื่อนำเงินไปลงทุนแล้วก็จะได้รับผลตอบแทนกลับมา โดยผลตอบแทนนั้นจะได้รับทั้งผลตอบแทนจากเงินของลูกจ้างและผลตอบแทนจากเงินสมทบของนายจ้าง
การลงทุนกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพถือว่าเป็นการออมและการลงทุนที่ง่ายแถมยังใกล้ตัวอีกด้วย ปัจจัยที่จะทำให้การลงทุนนี้เติบโตคือการเพิ่มสัดส่วนเงินออมของคุณ หากคุณอยู่ในบริษัทที่แผนการลงทุนน่าสนใจ คุณสามารถเลือกเพิ่มสัดส่วนเงินออมโดยการหักเงินจากเงินเดือนในอัตราที่สูงขึ้นได้ อีกปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้การลงทุนเติบโตคือการเลือกแผนการลงทุน โดยอาจจะใส่อัตราการลงทุนให้สูงเข้าไว้หรือใส่ตามที่คุณสามารถยอมรับได้ หากคุณออมเงิน ใส่อัตราการลงทุนสูง และเลือกแผนที่เหมาะสมกับตัวเอง ก็สามารถทำให้คุณอาจมีเงินออมในยามเกษียณได้ถึงหลักล้านเลยทีเดียว
สินเชื่อพรอมิสขอยกตัวอย่างวิธีการคำนวณเงินออมที่ลงทุนไว้ใช้ยามเกษียณตามตารางด้านล่างนี้
สมมติว่าคุณ…
- อายุปัจจุบัน 22 ปี
- อายุเกษียณ 55 ปี
- เงินเดือน 15,000 บาท
- หักเงินจากเงินเดือน 3%
- บริษัทสมทบเงินให้ 3%
- อัตราการเพิ่มของเงินเดือนปีละ 5%
- แผนการลงทุนได้ผลตอบแทน 3%
- เริ่มลงทุนตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นเดือนแรก เมื่อสิ้นปีจะเท่ากับลงทุนไปทั้งหมด 7 เดือน
ตัวอย่างตารางการคำนวณเมื่อหัก 3% จากเงินเดือน
หากคุณหักเงินจากเงินเดือนมากกว่า 3% อัตราผลตอบแทนที่ได้และเงินออมนั้นก็จะยิ่งสูงขึ้นไปอีก
บริษัทใหม่ไม่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพทำยังไง
หากวันนี้คุณเกิดอยากย้ายงานขึ้นมาไม่ว่าจะเพราะสังคมในการทำงาน หรือบริษัทใหม่ให้เงินเดือนที่มากขึ้นก็ตาม แต่บริษัทใหม่นั้นไม่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ คุณจะเอาเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจากบริษัทเดิมไปไว้ที่ไหนล่ะ ดังนั้นสินเชื่อพรอมิสขอแนะนำให้คุณนำเงินนั้นไปไว้ที่ RMF ย่อมาจาก Retirement Mutual Fund หรือกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพนั่นเอง ซึ่งกองทุนนี้เป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อลูกจ้างที่ย้ายงานและบริษัทใหม่ไม่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพนี้ก็มีสินทรัพย์และการลงทุนให้เลือกอย่างหลากหลาย คุณสามารถเลือกการลงทุนที่เหมาะกับตัวเองเพื่อสร้างผลตอบแทนต่อไปพร้อมกับคงสถานะเงินออมยามเกษียณไว้ได้อีกด้วย แต่หากคุณไม่ย้ายเงินก้อนนี้ไปไว้ที่กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ก็สามารถฝากไว้ที่บริษัทเดิมได้โดยจะเสียค่าธรรมเนียมในการคงสถานะ 500 บาท ซึ่งสินเชื่อพรอมิสแนะนำว่าให้นำไปไว้ที่กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพจะดีกว่า
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นนอกจากคุณจะยังรักษาวัตถุประสงค์เดิมของเงินออมนี้ไว้ได้แล้ว คุณยังสามารถลงทุนเพื่อทำกำไรได้อีกด้วย และเงินออมก้อนนี้ไม่ควรถอนออกมาเพราะว่าเงินที่ถอนออกมานั้นถือว่าเป็นเงินที่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเงินที่นำไปลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนั้นเป็นเงินที่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี คือ การไม่ถูกนำไปคิดคำนวณภาษี แต่เมื่อใดที่มีการถอนเงินออมก้อนนี้ออกมาก็จะต้องถูกนำไปคำนวณภาษีด้วย
สรุปบทความ
จากบทความที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ว่าการลงทุนกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนั้นไม่เพียงแต่ส่งผลประโยชน์กับคุณเพียงอย่างเดียว แต่ยังให้ประโยชน์กับครอบครัวของคุณอีกด้วย เพราะเมื่อคุณเกษียณอายุไปแล้ว คุณจะยังมีเงินออมในส่วนนี้เพื่อนำไปใช้จ่ายในชีวิตได้โดยไม่ต้องลำบากบุคคลในครอบครัวมากนัก
สินเชื่อพรอมิสขอบอกว่าหากบริษัทของคุณมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ แนะนำให้คุณทำตั้งแต่ที่เพิ่งเริ่มทำงานเลยก็จะเป็นข้อดีอย่างมาก เพราะไม่ใช่ว่าทุกบริษัทจะมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้กับลูกจ้าง หากใครที่ได้อ่านบทความนี้แล้ว และยังไม่ได้ลงทุนกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพกับทางบริษัทของคุณ ควรรีบศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมและลองตัดสินใจ ที่สำคัญกองทุนนี้ควรจะสะสมเอาไว้และไม่ควรถอนเงินออกมาก่อนที่คุณจะเกษียณอายุ เพราะเงินที่คุณลงทุนไปนั้นจะไม่ถูกนำมาคิดภาษี สินเชื่อพรอมิสขอแนะนำว่าหากคุณยิ่งเริ่มลงทุนเร็วเท่าไหร่ ในยามที่คุณเกษียณไปแล้วเงินออมที่ได้ก็จะยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น