เช็กเงื่อนไขกฎหมายสมรสเท่าเทียม เรื่องสำคัญที่ควรรู้ก่อนเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่
ในช่วงที่กฎหมายสมรสเท่าเทียมได้มีผลบังคับใช้ในประเทศไทยแล้ว หลายคู่รักที่รอคอยโอกาสนี้มานาน ต่างเตรียมพร้อมที่จะเริ่มต้นชีวิตคู่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่คุณรู้หรือไม่ว่ายังมีเงื่อนไขและรายละเอียดสำคัญที่คู่รักทุกคู่ควรทำความเข้าใจก่อนเข้าสู่พิธีสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิทธิการหมั้น การจดทะเบียนสมรส การจัดการทรัพย์สิน หรือแม้แต่กรณีที่ต้องแยกทาง บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจเงื่อนไขกฎหมายสมรสเท่าเทียมอย่างละเอียด เพื่อให้คุณมั่นใจและเตรียมพร้อมสำหรับการใช้ชีวิตคู่ในทุกขั้นตอน
สมรสเท่าเทียม คืออะไร
สมรสเท่าเทียม คือ สิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ในการสร้างครอบครัวโดยไม่จำกัดเพศ ภายใต้กฎหมายนี้ "คู่สมรส" ไม่จำเป็นต้องเป็นชายและหญิงเท่านั้น แต่ครอบคลุมถึงคู่รักทุกเพศสภาพ ให้สามารถจดทะเบียนสมรสและมีสิทธิประโยชน์ทางกฎหมายเช่นเดียวกับคู่สมรสทั่วไป
ประวัติความเป็นมาของสมรสเท่าเทียมในประเทศไทย
การเคลื่อนไหวเรื่องสมรสเท่าเทียมในประเทศไทยมีมาอย่างยาวนาน โดยในปี 2563 พรรคก้าวไกลได้ยื่นร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมต่อสภาฯ และผ่านวาระแรกพร้อมกับร่าง พ.ร.บ. ที่เกี่ยวข้องกับความเท่าเทียมทางเพศอีก 3 ฉบับ จนในที่สุดได้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568
ประโยชน์ของ พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม
สมรสเท่าเทียมมอบสิทธิและความเท่าเทียมให้แก่ทุกเพศ ดังนี้
- บุคคลทุกเพศสภาพสามารถจดทะเบียนสมรสกันได้อย่างถูกกฎหมาย
- ใช้ถ้อยคำที่เป็นกลางทางเพศมากขึ้น เช่น "คู่สมรส" แทนคำว่า สามี-ภรรยา
- ได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายในเรื่องสิทธิหมั้น สิทธิจดทะเบียนสมรส สิทธิจัดการทรัพย์สิน
- ได้รับสวัสดิการจากรัฐในฐานะคู่สมรส เช่น สิทธิประกันสังคม สิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาล
- คู่สมรสสามารถรับบุตรบุญธรรมร่วมกันได้
5 เรื่องพื้นฐานของกฎหมายสมรสเท่าเทียม
กฎหมายสมรสเท่าเทียมได้แก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ในหลายมาตรา โดยปรับเปลี่ยนถ้อยคำให้เป็นกลางทางเพศและครอบคลุมสิทธิขั้นพื้นฐาน 5 ประการที่ทุกคู่รักควรทำความเข้าใจก่อนเริ่มต้นชีวิตคู่ ดังต่อไปนี้
1. สิทธิการหมั้น
ภายใต้กฎหมายสมรสเท่าเทียม "บุคคลทั้งสองฝ่าย" ที่มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์สามารถหมั้นกันได้ โดยการหมั้นจะสมบูรณ์เมื่อมีการส่งมอบหรือโอนของหมั้นให้แก่ผู้รับหมั้น ซึ่งของหมั้นจะตกเป็นสิทธิของผู้รับหมั้น หากฝ่ายใดผิดสัญญาหมั้น อีกฝ่ายมีสิทธิเรียกค่าทดแทนได้ รวมถึงค่าทดแทนความเสียหายต่อร่างกายหรือชื่อเสียง ค่าใช้จ่ายในการเตรียมการสมรส และความเสียหายจากการจัดการทรัพย์สินหรืออาชีพเพราะคาดหมายว่าจะได้สมรส
2. สิทธิการจดทะเบียนสมรส
"บุคคลทั้งสองฝ่าย" ที่มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์สามารถสมรสกันได้ โดยต้องแสดงความยินยอมเป็นคู่สมรสกันอย่างเปิดเผยต่อหน้านายทะเบียน บุคคลที่สมรสไม่ได้คือผู้ที่วิกลจริตหรือไร้ความสามารถ ญาติสืบสายโลหิตโดยตรง พี่น้องร่วมบิดามารดาหรือร่วมแต่บิดาหรือมารดา และบุคคลที่มีคู่สมรสอยู่แล้ว ทั้งนี้การสมรสจะสมบูรณ์เมื่อได้จดทะเบียนสมรสเท่านั้น
3. สิทธิการดูแลชีวิตคู่
คู่สมรสมีหน้าที่ต้องอยู่กินด้วยกันฉันคู่สมรส ช่วยเหลือและอุปการะเลี้ยงดูกันตามความสามารถและฐานะ หากไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างปกติสุข หรือการอยู่ร่วมกันจะเป็นอันตรายต่อร่างกายหรือจิตใจ อาจร้องขอต่อศาลให้มีคำสั่งอนุญาตให้แยกกันอยู่ชั่วคราวได้ ในกรณีที่คู่สมรสฝ่ายหนึ่งถูกศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ คู่สมรสอีกฝ่ายจะเป็นผู้อนุบาลโดยอัตโนมัติ
4. สิทธิการจัดการทรัพย์สิน - หนี้สินของคู่สมรส
หากคู่สมรสไม่ได้ทำสัญญาเรื่องทรัพย์สินไว้เป็นพิเศษก่อนสมรส ทรัพย์สินจะแบ่งเป็น "สินส่วนตัว" และ "สินสมรส" โดยสินส่วนตัวได้แก่ ทรัพย์สินที่มีอยู่ก่อนสมรส เครื่องใช้ส่วนตัว ทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างสมรสโดยการรับมรดกหรือให้โดยเสน่หา และของหมั้น ส่วนสินสมรสคือทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างสมรส ทรัพย์สินที่ระบุว่าเป็นสินสมรส และดอกผลของสินส่วนตัว
คู่สมรสต้องจัดการสินสมรสร่วมกันหรือได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากอีกฝ่ายในกรณีการซื้อขาย แลกเปลี่ยน ให้เช่า จำนอง ให้กู้ยืม หรือการให้โดยเสน่หา หากฝ่ายใดจัดการสินสมรสจนเกิดความเสียหาย อีกฝ่ายสามารถร้องขอให้ศาลสั่งห้ามหรือจำกัดอำนาจได้
5. สิทธิการหย่าร้าง
การหย่าสามารถทำได้ 2 วิธี คือ หย่าโดยความยินยอมซึ่งต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนหย่า และการฟ้องหย่าซึ่งต้องมีเหตุตามที่กฎหมายกำหนด เช่น อุปการะเลี้ยงดูผู้อื่นฉันคู่สมรส ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ทำร้ายร่างกายหรือจิตใจ จงใจทิ้งร้างเกิน 1 ปี ถูกศาลสั่งให้เป็นคนสาบสูญ ไม่ให้ความช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดู เป็นคนวิกลจริตเกิน 3 ปี ผิดทัณฑ์บน เป็นโรคติดต่อร้ายแรง หรือมีสภาพร่างกายที่ไม่สามารถร่วมประเวณีได้
ขั้นตอนและวิธีการจดทะเบียนสมรสสำหรับคู่รักเพศเดียวกัน
การจดทะเบียนสมรสสำหรับคู่รักทุกเพศมีขั้นตอนเหมือนกัน ดังนี้
- ทั้งสองฝ่ายต้องมีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ (หากอายุไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ ต้องได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรม)
- เตรียมเอกสารสำคัญ ได้แก่ บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน และหลักฐานการหย่า (ถ้ามี)
- ยื่นคำร้องขอจดทะเบียนสมรสที่ว่าการอำเภอหรือสำนักงานเขต
- แสดงความยินยอมต่อหน้านายทะเบียน
- ชำระค่าธรรมเนียมและรับทะเบียนสมรส
สรุปกฎหมายสมรสเท่าเทียม
กฎหมายสมรสเท่าเทียมนับเป็นก้าวสำคัญของสังคมไทยในการยอมรับความหลากหลายทางเพศและการให้สิทธิอย่างเท่าเทียมแก่ทุกคน ช่วยให้คู่รักทุกเพศสามารถสร้างครอบครัวที่ถูกต้องตามกฎหมาย และได้รับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์เช่นเดียวกับคู่สมรสทั่วไป
อย่างไรก็ตาม การเริ่มต้นชีวิตคู่ย่อมมีทั้งความสุขและความท้าทาย หากคุณกำลังวางแผนใช้ชีวิตคู่และต้องการความช่วยเหลือทางการเงิน พรอมิส (Promise) พร้อมให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ อนุมัติทันใจใน 1 ชั่วโมง* สมัครง่าย ใช้เอกสารน้อย ไม่ต้องมีคนค้ำประกัน เพื่อให้คุณเริ่มต้นชีวิตคู่ได้อย่างมั่นคงและมีความสุข
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
ดอกเบี้ย 15%-25% ต่อปี
*กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนการสมัครที่ promise.co.th
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
*หากยื่นเอกสารครบถ้วนภายใน 18:00 น. และไม่มีเหตุขัดข้องด้านเอกสารหรือระบบ จะสามารถอนุมัติได้ภายใน 1 ชั่วโมง หรือภายในวันถัดไป