วิธีบริหารเงินง่าย ๆ สำหรับพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว
ในปัจจุบันนี้ คงจะมีหลาย ๆ คนที่ผันตัวไปเป็นพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวกันมากขึ้น ทั้งจากการหย่าร้าง และจากปัจจัยที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นอย่างการเสียชีวิต แน่นอนว่า เมื่อครอบครัวเหลือคนหารายได้มาใช้จ่ายในบ้านเพียงคนเดียว แผนการเงินต่าง ๆ ก็จะต้องมีการปรับเปลี่ยนตามไปด้วย เพื่อให้พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวสามารถดูแลสมาชิกที่เหลือได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ดังนั้นในบทความนี้ Promise จึงจะมาแนะแนวทางในการวางแผนและบริหารเงินสำหรับพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวมาฝากกัน ใครที่เป็นพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวแล้วอยากได้เทคนิคบริหารเงินให้ดีขึ้น ไปดูกันเลย
5 วิธีบริหารเงินฉบับพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว
ปัญหาด้านการเงิน เป็นสิ่งที่พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวทุกคนควรจะให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากปัญหานี้จะส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินของเราแล้ว ยังอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของครอบครัวในระยะยาวได้อีกด้วย ดังนั้น เราไปดูกันดีกว่าว่าวิธีบริหารเงินสำหรับพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ Promise จะมาเล่าให้ฟังในบทความนี้มีอะไรที่คุณยังขาดตกบกพร่องไปบ้าง
1. ตรวจสุขภาพทางการเงิน
สิ่งแรกที่เราจะต้องทำก่อนเริ่มวางแผนทางการเงินก็คือ การตรวจสุขภาพทางการเงินของเราก่อน เพื่อให้ทราบได้ว่า ตอนนี้เรามีทรัพย์สมบัติอะไรบ้าง มีหนี้ต่อเดือนมากเกินไปหรือไม่ และมีเงินออมเผื่อฉุกเฉินเพียงพอหรือยัง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถวางแผนและบริหารการเงินได้ดีและเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น
2. จัดระเบียบเงินออมตามเป้าหมาย
เมื่อทราบไปแล้วว่าสุขภาพทางการเงินของเราเป็นยังไง อันดับต่อก็ต้องมาเริ่มต้นจัดระเบียบเงินออม ซึ่งแน่นอนว่า พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวก็จะต้องเก็บออมและวางแผนให้รัดกุมมากขึ้น โดยควรจะมีไม่ต่ำกว่า 6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน และถ้ายังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นเก็บเงินยังไง แนะนำว่าให้จัดระเบียบเงินออมตามเป้าหมายที่จะนำไปใช้
- ก้อนที่ 1 แบ่งเป็นรายจ่ายประจำ เช่น ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ ค่าอาหารการกิน ค่าน้ำ-ไฟ
- ก้อนที่ 2 แบ่งเป็นเงินออมเพื่ออนาคต เช่น เงินลงทุน เงินค่าเทอม เงินเก็บหลังเกษียณ
- ก้อนที่ 3 แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพื่อมอบความสุขให้กับครอบครัว เช่น ท่องเที่ยว ซื้อของเล่น
3. มองหารายได้เสริม
หากในตอนที่คุณตรวจสุขภาพทางการเงิน แล้วพบว่ารายรับและเงินออมของคุณยังไม่เพียงพอ การมองหารายได้เสริมนอกจากงานประจำ ก็เป็นสิ่งที่จะช่วยให้คุณสามารถบริหารการเงินให้ดียิ่งขึ้นได้ สำหรับคนที่กังวลว่าจะไม่มีเวลาให้ครอบครัวหรือไม่มีเวลาพักผ่อนให้ตัวเอง ก็อาจจะมองหางานเสริมที่สามารถทำได้ที่บ้านหลังเลิกงาน เช่น ขายของออนไลน์ เปิดร้านอาหารที่รับแต่เดลิเวอรี เป็นต้น
4. ทำประกันเพื่อกระจายความเสี่ยง
การกระจายความเสี่ยงด้วยการทำประกัน เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวไม่ควรมองข้าม โดยหากในตอนนั้น ลูกของคุณยังอยู่ในวัยที่มีความเสี่ยงต่อการป่วย หรือต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อย ๆ ก็อาจจะเริ่มต้นจากการทำประกันให้ลูกน้อยแทน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายจากการรักษาพยาบาล เมื่อลูกโตขึ้นมาหน่อยจึงค่อยเริ่มทำประกันให้ตัวเองบ้าง แต่หากคุณมีเงินเก็บมากพอสำหรับทำประกันให้ทั้งตัวเองและลูก ก็จะช่วยกระจายความเสี่ยงได้มากขึ้น
5. เพิ่มสภาพคล่องทางการเงินด้วยสินเชื่อ
ไม่ว่าจะพยายามวางแผนและบริหารเงินให้ดีมากเพียงใด แต่ในจังหวะชีวิตก็อาจจะมีเรื่องที่ทำให้ต้องใช้เงินก้อนใหญ่กันอยู่บ้าง ซึ่งหนึ่งในตัวเลือกที่จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้กับพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวได้ โดยไม่ต้องนำเงินที่เก็บไว้มาใช้จนหมดก็คือ การขอสินเชื่อส่วนบุคคลที่คุณสามารถเลือกเงื่อนไขหรือสินเชื่อที่ตรงตามความต้องการของคุณได้
สรุปบทความ
แม้ว่าการบริหารการเงินสำหรับพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากมีการวางแผนที่ดีก็จะช่วยให้พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวสามารถจัดการเรื่องเงิน รวมถึงวางแผนอนาคตสำหรับตัวเองและลูก ๆ ได้ดียิ่งขึ้น
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
ดอกเบี้ย 15%-25% ต่อปี
*กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนการสมัครที่ promise.co.th
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด