ดอกเบี้ยขาขึ้นส่งผลกระทบต่อลูกหนี้อย่างไรบ้าง ผู้ขอสินเชื่อต้องทำอย่างไร
ช่วงอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น เป็นช่วงที่ทุกข์ใจสำหรับคนที่ไปกู้เงินมาเพื่อใช้จ่ายในด้านต่าง ๆ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ทำให้เงินค่างวดที่คุณจ่ายไปเท่าเดิมทุกเดือน กลายเป็นการจ่ายเพื่อตัดดอกมากขึ้น และตัดเงินต้นน้อยลง ดังนั้น เพื่อให้คุณสามารถเตรียมตัวรับมือกับการปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ย และบริหารหนี้ในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ได้เป็นอย่างดี Promise จึงขอพาคุณมาทำความรู้จักกับดอกเบี้ยขาขึ้นและผลกระทบที่ลูกหนี้ต้องเจอ รวมถึงแนะนำ 5 วิธีรับมือดอกเบี้ยขาขึ้น จะมีข้อมูลใดที่เป็นประโยชน์บ้าง ไปดูกัน
ดอกเบี้ยขาขึ้นคืออะไร ส่งผลกระทบกับลูกหนี้อย่างไร
อันดับแรก เรามาเริ่มต้นกันที่การทำความรู้จักดอกเบี้ยขาขึ้นกันก่อน โดยดอกเบี้ยขาขึ้น คือ อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ธนาคารกลางของแต่ละประเทศใช้ดำเนินนโยบาย ทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นการลงทุน ผ่านการปรับลดอัตราดอกเบี้ย หรือชะลอเศรษฐกิจ ควบคุมเงินเฟ้อ ด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อให้อัตราเงินเฟ้อ และการเติบโตทางเศรษฐกิจภายในประเทศดำเนินไปอย่างเหมาะสม
และเมื่อเกิดภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นจะเกิดผลกระทบกับผู้ที่ขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยมากที่สุด เนื่องจากเป็นสินเชื่อที่มีการคิดดอกเบี้ยเงินกู้แบบลอยตัว (Floating Rate) แต่สำหรับผู้ที่ยังมีสัญญาเงินกู้อยู่ในช่วงอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่จะยังไม่ได้ผลกระทบอะไรจากการที่ดอกเบี้ยขึ้น
ลูกหนี้ควรทำอย่างไร เมื่อมีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น
อย่างที่บอกว่า ภาวะดอกเบี้ยขึ้นส่งผลกระทบต่อผู้ขอสินเชื่ออยู่มาก เพราะเมื่อคุณจ่ายค่างวดไปเท่ากับงวดที่ผ่านมา เงินส่วนนั้นก็จะกลายเป็นการตัดดอกมากขึ้น แต่ตัดเงินต้นน้อยลง ทำให้ภาระหนี้สินจากการขอสินเชื่อบ้านไม่ลดลง และกลายเป็นภาระของผู้ขอสินเชื่อ ดังนั้น เรามาดูกันดีกว่าว่า ลูกหนี้อย่างเรา ๆ ควรจะทำอย่างไรเมื่อมีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น
1. ควรรวมหนี้เป็นก้อนเดียว เพื่อให้ง่ายต่อการบริหาร
หากคุณมีทั้งหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคล แล้วต้องเผชิญกับภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น สำหรับคนที่มีหนี้บ้านอยู่แล้ว แนะนำว่าให้รวมหนี้บ้านเข้ากับหนี้บัตรเครดิต เนื่องจากดอกเบี้ยจากสินเชื่อบ้านจะต่ำกว่าดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคล แต่หากไม่มีหนี้บ้าน ก็อาจจะรวมหนี้บัตรเครดิตและไปขอสินเชื่อส่วนบุคคลแทนก็ได้เช่นกัน
2. ปิดหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด ลดรายจ่าย
บัตรเครดิต เป็นสินเชื่อที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้มากที่สุด ซึ่งถ้าหากไม่มีการวางแผนและจัดการการใช้บัตรเครดิตให้ดี อัตราดอกเบี้ยที่สูงถึงร้อยละ 16 ของบัตรเครดิตก็จะก่อให้เกิดหนี้สินได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ดังนั้น หากคุณมีหนี้บัตรเครดิต หรือบัตรกดเงินสดก็ควรจะหาวิธีปิดหนี้เหล่านี้ ด้วยการลดรายจ่ายส่วนนี้ออกไปเพื่อให้คุณมีเงินเหลือไปใช้จ่ายในส่วนอื่นได้มากขึ้น รวมถึงหยุดการใช้บัตรนึงมาจ่ายอีกบัตรนึง เพราะนอกจากจะเป็นการสร้างหนี้เพิ่มขึ้นแล้ว ยังทำให้การบริหารจัดการหนี้ในอนาคตยากขึ้นอีกด้วย
3. หาสินเชื่อที่มีอยู่ เพื่อ Retention หรือ Refinance
สำหรับคนที่เป็นหนี้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยทุกชนิด สามารถนำดอกเบี้ยไป Retention หรือ Refinance เพื่อลดอัตราดอกเบี้ย และเปลี่ยนเงื่อนไขของสัญญาเงินกู้ให้เหมาะสมกับความสามารถในการชำระหนี้ของคุณได้มากขึ้น เช่น ได้ระยะเวลาในการผ่อนชำระที่นานขึ้น ค่างวดในการผ่อนชำระลดลง ขอลดอัตราดอกเบี้ยกับธนาคารเดิม เป็นต้น
- Retention คือ การขอคงอัตราดอกเบี้ยเดิมไว้ หรือขอลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้กับธนาคารเดิมแทนการย้ายไปธนาคารอื่น ซึ่งผลการอนุมัติก็จะขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคาร
- Refinance คือ การขอยื่นกู้สินเชื่อบ้านกับธนาคารใหม่ เพื่อให้ได้อัตราดอกเบี้ยบ้านที่ต่ำลง ได้ระยะเวลาการผ่อนที่นานขึ้น หรือเงื่อนไขที่เป็นประโยชน์มากกว่า ซึ่งจะช่วยให้ยอดผ่อนต่อเดือนน้อยลง และผ่อนบ้านได้หมดไวขึ้น
4. วางแผนการเงินอย่างรอบคอบ
เมื่ออยู่ในภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นแบบนี้ การที่คุณจะใช้จ่าย หรือขอสินเชื่ออะไรในช่วงนี้ ควรจะมีการวางแผนให้รอบคอบ เพราะหากใช้จ่ายจนเกินตัว และไม่ได้วางแผนการเงินให้รอบคอบ ก็จะทำให้เกิดหนี้ขึ้นมาได้ และถ้าหากคุณไม่สามารถชำระหนี้ได้ ก็จะทำให้เกิดประวัติเครดิตเสีย ที่จะส่งผลต่อการขอสินเชื่อในอนาคตได้อีกด้วย
5. ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ไม่สร้างหนี้เพิ่ม
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน ที่ทำให้คุณไม่สามารถชำระหนี้เดิมที่มีอยู่ได้ สิ่งสำคัญที่จำเป็นจะต้องทำก็คือ การไม่สร้างหนี้เพิ่มโดยการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นให้น้อยลง เพราะแน่นอนว่า เมื่อคุณมีหนี้มากขึ้น จำนวนเงินที่คุณต้องจ่ายในแต่ละเดือนก็จะมากขึ้นด้วยเช่นกัน และเมื่อเงินไม่พอจ่าย หลาย ๆ คนก็มักจะใช้วิธีนำบัตรนึง ไปจ่ายอีกบัตรนึง ทำให้เกิดหนี้ซ้ำซ้อนไม่มีวันจบ
สรุปบทความ
ภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น เป็นสัญญาณที่บ่งบอกให้ประชาชนทุกคนเริ่มรัดเข็มขัด ลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ และจัดการหนี้สินให้เหมาะกับสถานการณ์มากยิ่งขึ้น สำหรับคนที่วางแผนจะขอสินเชื่อต่าง ๆ ในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้นและไม่อยากได้รับผลกระทบ ก็แนะนำว่าควรจะทำความเข้าใจวิธีคิดอัตราดอกเบี้ย รวมถึงศึกษาเงื่อนไขของสัญญาให้ละเอียด เพื่อวางแผนการผ่อนชำระเงินให้เหมาะกับหนี้ที่มีอยู่ หรือมองหาสินเชื่อส่วนบุคคลดอกเบี้ยต่ำ เพื่อไม่ให้คุณต้องแบกรับภาระจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น